จากปัญหาที่เกิดขึ้น ผู้ตัดสินต้องแบกรับภาระในจุดนี้โดนลำพัง บางคนเริ่มจะไม่ไหวแล้ว เพราะทำหน้าที่แบบเดิม เท่าเดิม แต่ได้เงินครึ่งเดียวไปตลอดซีซั่น แบบนี้ก็น่าเห็นใจอยู่เหมือนกัน
บางรายให้ข้อมูลว่า เข้าใจในบริบทที่เกิดขึ้น แต่ชีวิตจริงคือต้องกินต้องใช้ ทำเท่าเดิม แต่ได้เงินครึ่งเดียว ค่าใช้จ่ายเท่าเดิม เผลอๆจะมากขึ้น แบบนี้อาจจะต้องไปหาอย่างอื่นทำ
ตลอด 3 ปี ที่ผ่านมา นั่งโฟท หรือ ผู้ตัดสินที่ 4 ราว 5-8 แมตซ์ ถึงจะได้เป่าครั้งนึง ทุกวันนี้ ค่าตัดสินก็ลดลง แต่ค่าใช้จ่ายเท่าเดิม เอาง่ายๆแค่ค่าเดินทางแต่ละที ถ้านั่งโฟทอย่างเดียว มีแต่ติดลบ เข้าเนื้อตัวเอง
บางคนมีชื่อตลอด บางคนไม่มีชื่อ คนที่นั่งแต่โฟทก็ไม่มีชื่อ คนที่ไม่ได้เป่าก็ไม่มีชื่อ บางคนก็ท้อ เพราะไม่ไหว เงินค่าทำหน้าที่ผู้ตัดสินที่ 4 ก็น้อยอยู่แล้ว แล้วมาโดนหั่นครึ่งอีก
บางคนที่มีชื่ออยู่ในไทยลีก 5 เกมที่ผ่านมา ไม่มีแมตซ์เลย บางคนก็นั่งโฟทติดกันหลายเกม แบบนี้ก้ลำบากในสถานการณ์แบบนี้ ทุกคนอยากมีแมตซ์เหมือนกันหมด แต่เข้าใจว่าขึ้นอยู่กับฝ่ายที่รับผิดชอบที่มีอำนาจเด็ดขาดในการเลือกตัว
คงจะอดตายไปก่อนที่จะมีชื่อเป่าไทยลีก … หรือบางที ไม่อยากตาย คงต้องไปหาอย่างอื่นทำ
สำหรับรายได้ผู้ตัดสินฟุตบอลไทยลีก1 และ ไทยลีก2 ที่จะเหลือ 50 เปอร์เซนต์จากวิกฤต โควิด-19 ที่เกิดขึ้น โดยประมาณการคร่าวๆว่า ไทยลีก1 คนเป่า เหลือ 5,000 บาท , ไลน์แมนคนละ 4,250 บาท , ผู้ตัดสินที่ 4 ได้ 2,350 บาท ส่วนไทยลีก2 คนเป่า ได้ 2,500 บาท , ไลน์แมนได้คนละ 1,750 บาท , ผู้ตัดสินที่ 4 ได้ 1,000 บาท